8 พรรคร่วม พร้อมจับมือตั้งรัฐบาล จ่อขอคะแนน สว. – คุยเงื่อนไข ม.112

การแถลงข่าว 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล มีบรรดาแกนนำ และเลขาธิการพรรค โดย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคก้าวไกล ได้เผยผลการประชุมกับ 8 พรรคร่วมรัฐบาล ว่า ในการประชุมสภา ที่จะมีขึ้นในวันที่ 27 ก.ค.นี้ พรรคเพื่อไทย จะเป็นคนส่ง ผู้ที่สมควรได้รับการแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีในบัญชีของพรรค และพรรคก้าวไกล จะเป็นผู้เสนอชื่อในที่ประชุมสภา เพื่อให้ได้มาซึ่งรัฐบาลที่ประชาชนคาดหวัง

"วราวุธ" ลั่น พร้อมหนุน แคนดิเดตนายกฯ ของ "เพื่อไทย"

ฟุตซอลไทย จับติ้วร่วมสาย หมู่เกาะโซโลมอน-เมียนมา ศึกแชมเปี้ยนชิพ ไทยแลนด์ 2023

ส่วนจะหาเสียงจากไหนมาสนันสนุนให้เพียงพอ ทางพรรคเพื่อไทยจะไปขอเสียงสนับสนุนจาก สว.ให้ครบตามจำนวน ที่จะต้องเติมเข้ามา ให้ครบ 375 เสียง นั้นหมายถึงอีก 63 เสียง

ส่วนกรณีที่ สว.กังวลในประเด็น ม.112 ทางพรรคเพื่อไทย จะไปพูดคุยเงื่อนไขดังกล่าวเอง หาก สว.จะให้มีการลดเงื่อนไขเกี่ยวกับ ม.112 จะนำรายละเอียดไปพูดคุยกับพรรคก้าวไกล และในที่ประชุมพรรคร่วมต่อไป

นอกจากนี้ ที่ประชุมยังมีมติ ให้พรรคเพื่อไทย ไปแสวงหาคะแนนจาก สส.พรรคอื่นๆ เพิ่มเติม เพื่อได้เสียงมาสนับสนุนอย่างเสรี ไม่ว่าเป็นจะเป็นพรรคการเมืองใดก็ได้ ให้พรรคเพื่อไทยไปพูดคุยเอง

เมื่อถามว่าเงื่อนไข ม.112 เป็นอุปสรรคหรือไม่ นายชัยวัฒน์ กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นแค่ข้ออ้าง ซึ่งเป้าหมายสูงสุดที่เราอยากเห็นตามเจตจำนงของพี่น้องประชาชน ที่ลงคะแนนเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม ต้องการจะเห็นการเปลี่ยนขั้วรัฐบาล เราในฐานะที่ได้เสี่ยงเป็นอันดับ 1 จะพยายามอย่างดีที่สุดในการบรรลุเป้าหมาย ตอนนี้โดยมารยาทต้องมอบหมายบทบาทหลักให้พรรคเพื่อไทย ในการบริหารจัดการเรื่องเหล่านี้ และคงต้องไปพูดคุยกับสว ว่าจะมีข้อเสนอใดบ้างที่เป็นรูปธรรม

เมื่อถามว่า ระหว่างที่ 8 พรรคหารือมีท่าที พรรคการเมืองอื่นๆ ที่แสดงท่าทีว่าจะไม่ร่วมรัฐบาลหากมีพรรคก้าวไกลอยู่นั้น นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ที่ประชุม 8 พรรคร่วมให้สิทธิ์พรรคเพื่อไทย ในการไปพิจารณาว่าจะดำเนินการอย่างไรคิดอย่างไร

นพ.ชลน่าน ยืนยันว่า การหาเสียงสว. 63 เสียงเพิ่ม น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด ซึ่งเป็นทางเลือกที่ 1 ส่วนทางเลือกที่ 2 คือ หาคะแนนจาก สส. จากพรรคการเมืองอื่นๆ ซึ่งจะต้องไปพูดคุยรายละเอียดกัน ว่าเป็นเพียงแค่การโหวตหรือ ร่วมในรัฐบาลด้วย ซึ่งหากมีพรรคหนึ่งประกาศว่ายินดีร่วมโหวตโดยไม่ร่วมรัฐบาลก็ถือเป็นมิติใหม่ทางการเมือง ก็ต้องพยายามและอยู่ที่การพูดคุย

ซึ่งในวันที่ 27 กรกฎาคมนี้จะมีการเสนอเพียง 1 ท่านเท่านั้น ซึ่งพรรคเพื่อไทย จะเข้าสู่กระบวนการพิจารณา ภายในของพรรคและประกาศภายในวันที่ 26 กรกฎาคม

เมื่อถาม ว่าหาสมาชิกวุฒิสภายื่นเงื่อนไขว่าห้ามแตะต้อง ม.112 เลย นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ต้องไปฟังให้ชัดเจน ซึ่งพรรคได้รับมอบหมายจากที่ประชุมให้หาข้อมูลข้อเท็จจริงให้รอบด้าน จากนั้นเข้าสู่กระบวนการแจ้งต่อทางภาคก้าวไกลและที่ประชุม 8 ครั้งร่วม ให้เป็นข้อพิจารณาร่วมกัน

ส่วนกังวลหรือไม่ว่าเสียงจะตก และทำให้โหวตซ้ำไม่ได้อีก นพ.ชลน่านกล่าวว่า ด้วยความกังวลเรื่องนี้เราจึงมีกระบวนการทำให้เกิดความมั่นใจ ว่าก่อนวันที่ 27 ก.ค.66 ที่เราจะเสนอชื่อจะต้องได้รับการสนับสนุนให้เกิน 375 เสียงขึ้นไป แล้ว

นพ.ชลน่าน ยังกล่าวด้วยว่า ยังไม่มีการพูดคุยกับพรรคภูมิใจไทย และตามหลักการเมื่อพรรคร่วมให้สิทธิ์พรรคเพื่อไทยในการเจรจาเราจะไปเจรจาอย่างเป็นทางการ เพื่อยืนยันในเจตนารมณ์ของแต่ละพรรค

เมื่อถามว่า พรรคเพื่อไทย จะการันตีได้อย่างไรว่าจะไม่หักหลังสัญญาที่ให้กับประชาชน ในการไม่ตั้งรัฐบาลกับขั้วรัฐบาลเก่า หรือพรรคเพื่อไทยยินดีที่จะขัดคำสัญญานั้นแล้วตั้งรัฐบาล ใหม่กับขั้วรัฐบาลเก่า นพ.ชลน่าน กล่าวว่า สิ่งที่เราแถลงไปในวันนี้คือคำมั่นสัญญา ที่เราพยายามทำให้ดีที่สุด ในสิ่งที่เรายึดมั่นใน 8 พรรคร่วมเรา นอกเหนือจากมาตรการจับมือ 8 พรรคร่วม เราเพียงแต่ได้สิทธิ์ ให้ไปดำเนินการ เป็นสิ่งที่เพื่อไทยคิดเพื่อไทยทำ หลังจากกระบวนการทั้งหมดของ 8 พรรคร่วมไม่เป็นผลสัมฤทธิ์คำพูดจาก สล็อตเว็บตรง

เมื่อถามว่าทุกทางเลือกของเราจะมีพรรคก้าวไกลอยู่ในรัฐบาลหรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า "ที่แถลงไปในทางเลือกที่ 1 และที่ 2 ส่วนทางเลือกที่ 3 เป็นทางเรื่องอื่นๆ ซึ่งไม่ใช่ทางเลือกร่วมกันของ 8 พรรคร่วม ซึ่งอาจจะไม่มีพรรคใดพรรคหนึ่งอยู่ในสมการนี้ ซึ่งสิทธิ์ตรงนี้พรรคเพื่อไทยได้รับสิทธิ์ให้ไปพิจารณาและดำเนินการ คือแนวทางที่ 3 เป็นแนวทางที่เราต้องแสวงหาให้ได้มาซึ่งคะแนน ในวันที่ 27 ก็ต้องไปดูข้อเท็จจริงที่จะเกิดขึ้น ณ ตอนนั้น"

เมื่อถามว่าอะไรจะทำให้เกิดสมการที่ 3 นพ.ชลน่าน กล่าวว่า คือ ทางที่ 1 และ 2 ไม่สำเร็จ ถามว่าใช้ศิลปะใดค่อนข้างตอบยาก เพราะทางการเมืองแทบจะไม่มีคำว่าศิลปะ แต่สิ่งที่เราได้รับจากที่ประชุมคือ ส่วนหนึ่งคือพรรคร่วมยินดีที่จะสนับสนุนและหาเสียงทั้งจาก สส.และสว. และเพื่อไทยต้องทำงานหนักในเวลาจำกัด ดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในวัน 2 วัน ให้ทันก่อนวันที่ 26 กรกฎาคมนี้ ซึ่งขณะนี้ขอดำเนินการให้แนวทางที่ 1 และ 2 สำเร็จให้ได้ก่อนแนวทางอื่นยังไม่มีการพูดถึง

เมื่อถามว่าการเปลี่ยนแกนนำจากพรรคก้าวไกลเป็นพรรคเพื่อไทย MOU มีการเปลี่ยนแปลงหรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ขณะนี้เรายึดแนวทางนั้น แต่เมื่อไปดำเนินการแล้วอะไรที่ต้องเปลี่ยนก็ต้องเปลี่ยน บางเรื่องที่เขียนไม่ตรงก็ต้องปรับแก้

ส่วนแนวทางที่ 3 สามารถมีลุงมีเรา หรือ มีเราไม่มีลุงหรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ตอนนี้ยังตอบไม่ได้เพราะเป็นทางเลือกที่ต้องแสวงหาให้ได้

ด้าน พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส กล่าวว่า การแก้ไขมาตรา112 เป็นเรื่องปกติ ตนเคยอภิปรายในรัฐสภา การแก้ไขมาตรา112 มีตั้งแต่ปี 2499 พวกเราอยู่ที่ไหน ตนเกิดแล้วแต่พวกคุณเกิดหรือยัง ถ้าจะเกิดการแก้ไขมาตรา 112 ในปัจจุบันก็ไม่ได้ผิดอะไร เพราะมาตรา 112 เป็นประมวลกฎหมายอาญา อีกทั้งการแก้ไขรัฐธรรมนูญยังแก้ไข แต่แก้ไขกฎหมายอาญาทำได้ ซึ่งตนเคยโดนข้อหามาตรา 112 มาแล้ว และ สมัยตนเป็น ผบ.ตร. เบื้องบนบอกให้ปลดล็อกเรื่อง มาตรา 112 และตนสั่งไม่ฟ้องตามมาตรา 112 ดังนั้นเรื่องมาตรา 112 เป็นเพียงข้ออ้างเท่านั้น เขาอ้างอย่างนี้ไม่รู้จะทำอย่างไร เมื่อวันที่ 19 ก.ค. ในการประชุมร่วมกันของรัฐสภาที่เสนอชื่อพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ซ้ำซ้อนขัดตามข้อบังคับการประชุมรัฐสภาหรือไม่ ตนไม่ได้ลงคะแนน และเห็นว่าผิดรัฐธรรมนูญ ถ้าตนลงคะแนนด้วยถือว่ายอมรับเขา จึงไม่ลงคะแนน

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า ที่บอกหากมีผู้ไปร้องผู้ตรวจการแผ่นดินถึงกรณีข้อบังคับการประชุมรัฐสภา ข้อที่ 41 ก็ต้องดูว่าเป็นผู้ร้องเป็นผู้เสียหายถูกละเมิดสิทธิหรือไม่ ถ้าไม่ถูกละเมิดสิทธิ ผู้ตรวจการแผ่นดินก็ไม่รับคำร้อง แต่ตนจะไปยื่นร้องผู้ตรวจการแผ่นดินในวันที่ 26 ก.ค.นี้ เพื่อปลดล็อกมติที่ประชุมรัฐสภาครั้งที่แล้วให้ได้ ตอนนี้ไม่ได้ปลดล็อกทำให้บังคับมาเรื่อย

"อย่างกรณีคุณพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ถ้าถูกปลดล็อกก็เสนอชื่อนายกฯได้ แต่คุุณมีมติให้ผมเป็นเสียหาย ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 234 (1) คณะกรรมการ ป.ป.ช.มีหน้าที่สืบสวนดำเนินคดีกับนักการเมืองที่กระทำการทุจริตประพฤติมิชอบที่กระทำการขัอต่อรัฐธรรมนูญ และดำเนินการเรียกร้องค่าเสียหายด้วย" พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์

เมื่อถามว่า พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า ทางฝ่ายส.ว.เขาจิ้มมาถ้ามีพรรคก้าวไกลไม่เอาด้วย พรรภูมิใจไทย พรคชาติไทยบอกว่ามีก้าวไกลไม่เอาด้วย ตนเห็นว่าพรคเพื่อไทย้ก้าวไกลอยู่ด้วยกันมาตลอด การจะตัดเยื่อใยเลยก็คงไม่ถูก ดังนั้น พรรคเพื่อไทยต้องรักษาพรรคก้าวไกล แะพรรคก้าวไกลควรสนับสนุนพรรคเพื่อไทย ควรจะเป็นเรื่องพรรคก้าวไกลจะตัดสินใจจะทำอย่างไร

"ถ้าเสียสละ ผมพูดในห้องประชุม 8 พรรค เรืออยู่กลางทะเล เรือมันล่ม มีคนแก่ ผู้หญิง มีเด็กต่างๆ เราคนหนุ่มจะขึ้นเรือเหรอ ต้องให้เด็ก คนแก่ ผู้หญิงขึ้นไปก่อน ไม่ใช่หนุ่มกระโดดขึ้นเรือก่อน ดังนั้นต้องมีผู้เสียสละให้ประชาธิปไตยไปได้ ถ้าไม่เสียสละไปไม่ได้" พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์

เมื่อถามว่าเสียสละคืออะไร พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า เป็นแนวทางที่ 3 ที่หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ไม่ใช่ตัดพรรคก้าวไกลออก 8 พรรค ถ้าตัดพรรคก้าวไกล พรรคเพื่อไทยจะขาด 151 เสียง แต่พรรคก้าวไกลยังอยู่รัฐบาลเพียงแต่ไม่แสดงตัว ถ้าแสดงตัวก็จะไม่เอา

 8 พรรคร่วม พร้อมจับมือตั้งรัฐบาล จ่อขอคะแนน สว. - คุยเงื่อนไข ม.112