รัสเซียถล่มเมืองท่ายูเครน ตอบโต้เหตุระเบิดสะพานไครเมีย

กระทรวงกลาโหมรัสเซียระบุในแถลงการณ์ว่า กองทัพได้ตั้งเป้าโจมตีเข้าใส่ "เป้าหมายในยูเครนที่มีพฤติกรรมก่อการร้าย" ซึ่งได้ใช้เรือไร้คนขับก่อวินาศกรรมโจมตีสะพานเคิร์ชในแคว้นไครเมียซึ่งรัสเซียผนวกมาจากยูเครนตั้งแต่ปี 2014

โดยพื้นที่ที่ถูกโจมตีนั้นเป็น 2 เมืองท่าสำคัญคือ โอเดสซา ซึ่งเป็นที่ตั้งของฐานทัพเรือยูเครน และเมืองมิโคลาเยฟ ที่อยู่ริมชายฝั่งทะเลดำ

คำพูดจาก สล็อต888

ซึ่งก่อนหน้านี้รัสเซียกล่าวว่า เหตุการณ์โจมตีสะพานเคิร์ช ซึ่งเป็นเส้นทางหลักเชื่อมต่อรัสเซียกับคาบสมุทรไครเมียเมื่อวันจันทร์ทำให้พลเรือนเสียชีวิต 2 คนและเด็ก 1 คนได้รับบาดเจ็บ ขณะที่ พื้นถนนสะพานได้รับความเสียหายและทำให้การจราจรต้องหยุดชะงักลง

โดยเมื่อวานนี้หน่วยความมั่นคงส่วนกลางรัสเซียได้จับกุมหญิงคนหนึ่งที่ต้องสงสัยว่าทำงานให้กับหน่วยข่าวกรองของยูเครนในการเก็บรวบรวมข้อมูลของโครงสร้างพื้นฐานแห่งหนึ่งในรัสเซีย

รัสเซียเตรียมล้างแค้น หลังยูเครนระเบิดสะพานเคียร์ช

รัสเซียไม่ต่อสัญญา ข้อตกลงความร่วมมือส่งออกธัญพืชยูเครน

“ปูติน” จ้องเอาคืนยูเครน หลังเหตุถล่มสะพานไครเมียเป็นครั้งที่ 2

แม้จะไม่มีการเปิดเผยว่าโครงสร้างพื้นฐานดังกล่าวอยู่ที่ใด แต่ภาพจากกล้องวงจรปิดที่สื่อรัสเซียนำมาเผยแพร่แสดงให้เห็นว่าหญิงสาวต้องสงสัยรายนี้กำลังถ่ายภาพใกล้ๆกับโรงงานผลิตไฟฟ้าพลังน้ำในเมืองอู-กลิตช์ (Uglich) ภูมิภาคยาโรสลาฟทางตอนเหนือของกรุงมอสโก

ส่วนความคืบหน้าหลังรัสเซียประกาศถอนตัวจากการเข้าร่วมข้อตกลงส่งออกธัญพืชดังกล่าวที่หมดอายุลงแล้วเมื่อวันจันทร์ ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี เสนอให้ยูเครนเดินหน้าการส่งออกภายใต้ความร่วมมือกับสหประชาชาติและตุรกีต่อไป

ขณะที่ มีโคลา โซลสกี (Mykola Solsky) รัฐมนตรีนโยบายกสิกรรมและอาหารของยูเครน แสดงความกังวล“การส่งออกของยูเครนจะได้รับผลกระทบอย่างร้ายแรง เพราะการส่งออกธัญพืชทางทะเลนั้นคือ หนทางที่มีประสิทธิภาพที่สุดในการนำส่งธัญพืชจากยูเครน พร้อมยืนยันว่าจะพยายามเปิดเส้นทางขนส่งธัญพืชผ่านทะเลดำให้ได้ และจะใช้ช่องทางอื่น ๆสำหรับการส่งออกต่อไป”

อย่างไรก็ตาม ดมิทรี เพสคอฟ โฆษกทำเนียบประธานาธิบดีรัสเซียออกมาเตือนเมื่อวานนี้ว่า การกระทำตามข้อเสนอของผู้นำยูเครนอาจไม่มีความปลอดภัยหากไม่มีรัสเซียเข้าร่วมด้วย และระบุว่าหากไม่มีการรับประกันด้านความปลอดภัยอย่างเหมาะสมแล้ว ย่อมมีความเสี่ยงอย่างแน่นอน ดังนั้นการจัดทำข้อตกลงในอนาคต โดยปราศจากรัสเซีย ก็ควรมีการพิจารณาความเสี่ยงเหล่านี้ไว้ด้วย

สำหรับ หลังรัสเซียประกาศยุติความร่วมมือภายใต้ข้อตกลงทะเลดำ อันโตนิโอ กูเตียเรซ เลขาธิการสหประชาชาติ กล่าวว่า ข้อตกลงดังกล่าวสามารถช่วยลดราคาอาหารได้กว่า 23% ตั้งแต่เดือนมีนาคมของปีที่แล้ว พร้อมระบุว่าการตัดสินใจของรัสเซียจะส่งผลเสียหายต่อประชาชนที่เดือดร้อนหนักอยู่แล้วทั่วโลก”

ขณะที่เรือ 4 ลำของกองทัพเรือรัสเซียประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกได้เดินทางออกจากท่าเรือเมืองวลาดิวอสต็อกเพื่อเข้าร่วมการซ้อมร่วมกับกองทัพเรือจีนในทะเลญี่ปุ่นซึ่งเป็นน่านน้ำสากล โดยการฝึกซ้อมร่วมดังกล่าวกำลังจะมีขึ้นในช่วงปลายเดือนนี้

การร่วมซ้อมรบระหว่างสองพันธมิตรนี้มีรหัสชื่อว่า “Northern/Interaction-2023” และเป็นสิ่งที่บ่งชี้ถึงการยกระดับความร่วมมือทางทหารของทั้งสองประเทศอย่างชัดเจน นับตั้งเมื่อรัสเซียส่งกองทัพรุกรานยูเครนในเดือนกุมภาพันธ์ของปีที่แล้ว และถูกจัดขึ้น ขณะที่จีนยังคงเดินหน้าปฏิเสธคำร้องขอจากสหรัฐฯ ให้กลับมาเปิดช่องทางการสื่อสารทางทหารระหว่างกันอีกครั้ง